> ประวัติความเป็นมา

ประวัติ  ความเป็นมา และข้อมูลด้านอาคารสถานที่

        เมื่อปี พ.ศ. 2531 ได้มีคณะบุคคลซึ่งประกอบด้วย นายประสงค์ อ้นสุวรรณ นายเชิดชัย     พลานิวัติ นางเสงี่ยม อ้นสุวรรณ นายเลิศ  ทับเจริญ  นายทรงศักดิ์  ทัศนจรินทร  นายพันศักดิ์  ฐิมาวิริยะ  และนางมณีรัตน์ สุวรรณภาภรณ์ บุคคลทั้งหมดเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณ หมู่ที่ 11 ถนนนวลจันทร์        แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ได้แจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคที่ดิน จำนวน 15 ไร่ ซึ่งราคาประเมินเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2531 เป็นเงิน 45 ล้านบาท ให้แก่กรมอาชีวศึกษาเพื่อจัดตั้งสถานศึกษา สังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ การบริจาคในครั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา กรมอาชีวศึกษาจึงได้นำความเสนอกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งอนุมัติให้รับบริจาคที่ดินแปลงดังกล่าวได้ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ     สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานที่ดิน กรมอาชีวศึกษา (นายบุญเทียม เจริญยิ่ง) เป็นผู้รับพระราชทาน และเสนอให้คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติพิจารณาบรรจุโครงการจัดตั้งวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ ในแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 และคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2533 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2533 ให้ความเห็นชอบและอนุมัติในหลักการโครงการของวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ ซึ่งกำหนดให้มีการจัดทำแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ในเรื่องการร่วมมือและประสานงานกับภาคธุรกิจเอกชน นับแต่การวางแผนการผลิตกำลังคน การจัดทำหลักสูตรการเรียน  การสอน และการจัดหาวิทยากรมาสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ กอปรกับกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นสมควรขยายการศึกษา ประเภทวิทยาลัยการอาชีพให้เปิดการสอนทั้งหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น หลักสูตรพิเศษอื่น ๆ และหลักสูตรในระบบการศึกษาให้กว้างขวาง หลากหลายสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ตลอดจนเพื่อสนองความต้องการของตลาดแรงงานของประเทศ จึงให้จัดตั้งสถานศึกษาประเภทวิทยาลัยการอาชีพขึ้นที่ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ” สังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2534 เป็นต้นมา และในปี 2538 นางเสงี่ยม อ้นสุวรรณ ได้มอบที่ดินให้เป็นการเพิ่มเติมอีก จำนวน 3 ไร่ รวมที่ดินทั้งหมดของวิทยาลัยฯ จำนวน 18 ไร่